GraphQL คืออะไร และ มันอาจจะเป็นสิ่งที่มาเปลี่ยน REST API

Published on August 14, 2025
GraphQL คืออะไร และ มันอาจจะเป็นสิ่งที่มาเปลี่ยน REST API

GraphQL คืออะไร
ก่อนอื่นต้องบอกก่อน วิธีการสื่อสารระหว่าง client & server นั้นเราใช้วิธีการที่เรียกว่า REST API มานานกันพอสมควรแล้ว แต่มันก็ยังมีปัญหาอยู่หลายๆ ประการเช่น การมี endpoint ที่เยอะ และ การเลือกข้อมูลลำบาก หรือพูดง่ายๆ จะขอบางอย่างไม่ได้ แต่ต้องขอทุกอย่างตาม spec ที่ API docs นั้นให้มา

GraphQL เป็นภาษาสำหรับ query และทำงานร่วมกับ API ที่ถูกพัฒนาโดย Facebook (ปี 2012) และเปิดเป็นโอเพนซอร์สในปี 2015 เป้าหมายของมันคือ ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้นที่ขอไป ให้ client สามารถ

  • ขอข้อมูลเฉพาะที่ต้องการ
  • ในโครงสร้างที่กำหนดเอง
  • ด้วยการยิง request เพียงครั้งเดียว

แนวคิดหลัก

  • Client จะระบุว่าอยากได้ข้อมูลฟิลด์อะไรบ้าง (field-based query)
  • Server จะตอบกลับเฉพาะข้อมูลที่ถูกขอมา
  • ใช้เพียง endpoint เดียว (เช่น /graphql) แทนการมีหลาย endpoint แบบ REST

ตัวอย่าง

query {
  user(id: 1) {
    name
    email
  }
}

Server จะตอบกลับเฉพาะฟิลด์ name และ email ของ user ที่ id = 1 เท่านั้น เพราะฉะนั้นก็เลยช่วยลด traffic ที่วิ่งระหว่าง client & server ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีอย่างมากเลยทีเดียว


เปรียบเทียบ GraphQL กับ REST API

คุณสมบัติ GraphQL REST API
โครงสร้างข้อมูล Client กำหนดเองว่าจะเอา field อะไรบ้าง Server กำหนดว่าจะส่งข้อมูลอะไร (fixed structure)
จำนวน endpoint ใช้ endpoint เดียว (เช่น /graphql) หลาย endpoint เช่น /users, /users/:id/posts
Over-fetching (ได้ข้อมูลเยอะเกิน) ลดได้มาก เพราะขอเฉพาะ field ที่ต้องการ เกิดบ่อย เพราะ endpoint ส่งข้อมูลทั้งหมดตามที่กำหนด ทุกอย่างถูกตั้งค่าด้วย API docs ไว้แล้ว
Under-fetching (ได้ข้อมูลไม่พอ) ลดได้มาก เพราะสามารถรวม query ข้อมูลหลายส่วนใน request เดียว เกิดบ่อย ต้องยิงหลาย request เพื่อให้ได้ข้อมูลครบ รวมถึงหลาย endpoint
การจัดการเวอร์ชัน (versioning) มักไม่ต้องใช้ version (เพราะสามารถเพิ่ม field ใหม่ได้โดยไม่กระทบ client เดิม) มักใช้ version เช่น /api/v1/ เพื่อป้องกันความสับสน
ประสิทธิภาพ ดีกว่าถ้าข้อมูลต้องรวมจากหลาย resource เรียบง่าย
การแคช ทำได้ซับซ้อนกว่า REST (เพราะใช้ endpoint เดียว) ต้องใช้ library ช่วย ง่ายเพราะ URL endpoint คงที่ สามารถใช้ HTTP cache ได้ตรง ๆ
การเรียนรู้ มี learning curve สูงขึ้น ต้องเข้าใจ schema, resolvers, types อย่างดี เข้าใจง่ายกว่า เหมาะกับผู้เริ่มต้น เพราะหลายคนคุ้นเคยอยู่แล้ว
การดีบัก มี GraphiQL/Playground ช่วย query และทดสอบ ใช้เครื่องมือทั่วไปเช่น Postman หรือ curl

สรุป

  • REST API ง่าย เพราะคุ้นเคยกันมานานในโลกแห่ง client-server เหมาะกับงานทั่วไป, ใช้ประโยชน์จาก HTTP ได้เต็มที่ (เช่น cache, status code)
  • GraphQL เหมาะกับงานที่ต้องดึงข้อมูลหลายชนิดในครั้งเดียว และต้องการลดการ over/under-fetching และลด bandwidth ในการส่งข้อมูลด้วย
  • แต่ GraphQL ต้องจัดการ performance และความซับซ้อนเพิ่ม เช่น N+1 problem และ cache ที่ยากกว่า REST ซึ่งจำเป็นจะต้องมี learning curve เพิ่ม

แต่ยังไงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าจะเรียนรู้ เพราะมันคือนวัตกรรมใหม่ ที่กำลังมาแรง และ เริ่มมีการใช้งานมากขึ้นในปัจจุบัน และ มันก็ยังมีข้อดีอีกหลายๆ ประการซึ่งในครั้งหน้าเราจะพาไปเรียนรู้เพิ่มเติม

วิธีตั้งค่า Cloud-Init VM บน Proxmox VE เพื่อสร้างและกำหนดค่า VM โดยอัตโนมัติ

Cloud-Init คืออะไร Cloud-Init เป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ช่วยให้ระบบสามารถตั้งค่าการเริ่มต้นของเครื่องเสมือน (Virtual Machine: VM) โดยอัตโนมัติทันทีที่ VM บูตขึ้นครั้งแรก...

Read more »

มอนิเตอร์ Proxmox VE ด้วย ProxMenux

วันนี้เราขอเสนอวิธีการมอนิเตอร์ Proxmox VE ของท่านอย่างง่ายด้วย ProxMenux จริงๆ ต้องบอกว่า ProxMenux นั้นมันไม่ได้เป็นโปรแกรมมอนิเตอร์ Proxmox...

Read more »

Memory overcommitment ทำงานอย่างไร

Memory Overcommitment หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Memory Oversubscription นั้นเป็นเทคโนโลยีที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานหรือผู้จัดการ hypervisor นั้นสามารถที่จะตั้งค่าหน่วยความจำของ VMs ทั้งหมด...

Read more »

CPU overcommit คืออะไรและมันทำงานอย่างไร

สำหรับผู้ที่ใช้งาน VMware ESXi มาก่อนนั้น ท่านอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า CPU Overcommit เนื่องจากเป็นฟีเจอร์หนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดขาย เพราะมันทำงานโดย การอนุญาตให้เรากำหนดจำนวน...

Read more »

การเลือกชนิด processor สำหรับ VM บน Proxmox VE

สำหรับผู้ที่เริ่มใช้งาน Proxmox VE นั้นอาจจะต้องพบกับสับสนหลายอย่าง และ หนึ่งในสิ่งที่เจอบ่อยๆ ก็คือ การเลือกชนิด processor หรือเรียกง่ายๆ...

Read more »

สิ่งที่มักเข้าใจผิดเมื่อพูดถึง Virtualization Platforms

Hypervisor Type 1 หรือเรียกว่า Bare-metal Hypervisor คือซอฟต์แวร์ที่รันโดยตรงบนฮาร์ดแวร์ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยไม่ต้องผ่านระบบปฏิบัติการก่อน ทำให้มีประสิทธิภาพสูง เสถียร...

Read more »