อย่างที่เราได้เรียนไปบทความก่อนหน้านั้น การอัพเกรด ระบบปฏิบัติการนั้น จะทำให้เรายังได้รับการสนับสนุนด้าน patch และ การอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ จากผู้ผลิต วันนี้ก็เช่นเดียวกัน เรามาลองอัพเกรดจาก Windows Server 2016 ไปเป็น Windows Server 2022 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดจาก Microsoft ซึ่งเรียกว่ามีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพียบที่ Advanced เช่น
จริงๆ มีฟีเจอร์เด่น ๆ อีกหลายตัว แต่เราขอยกตัวอย่างเพียงแค่นี้ก่อน งั้นเราก็มาเริ่มทำการอัพเกรดกันเลย แน่อนนว่า หลักการก็ยังเป็นเหมือนเดิมคือท่านจะต้องมี Windows Server 2022 ISO file ก่อน และทำการ mount
อีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกไว้ก่อนคือ การอัพเกรด จะทำได้นั้นท่านจะต้องเช็คก่อนว่า จะข้ามขั้นไปได้กี่ version ของ Windows ซึ่งในภาพด้านล่าง ทาง Microsoft จะบอกไว้ ว่าการอัพเกรดทำได้อย่างไร
รูปที่ 1
จากรูปที่ 1 เราจะเห็นได้ว่า หากเราใช้งาน Windows Server 2016 อยู่ท่านสามารถเลือกที่จะทำการอัพเกรดไปเป็น Windows Server 2019 หรือ Windows Server 2022 ได้โดยตรง
งั้นก็มาต่อกันเลยนะครับ เมื่อเราได้ ISO File จากการดาวน์โหลด หรือว่าจากแผ่น DVD เราก็ทำการ mount ISO นั้นได้เลยครับ
รูปที่ 2 แสดงการ mount ISO File
รูปที่ 3 ทำการดับเบิ้ลคลิกที่ setup.exe และทำการเลือก Run
รูปที่ 4 ระบบแสดงถึงเรื่องการดาวน์โหลดอัพเดทออนไลน์ ให้ท่านคลิก Next
รูปที่ 5 ระบบเริ่มทำการดาวน์โหลดอัพเดทที่จำเป็น
รูปที่ 6 ระบบแสดงรูปแบบการติดตั้งให้เราเลือก กรณีที่ท่านต้องการใช้ UI ให้ท่านเลือก Desktop Experience และคลิก Next
รูปที่ 7 ระบบแสดงเงื่อนไขการใช้งาน
รูปที่ 8 ให้ท่านเลือก Keep files, settings, and apps เมื่อต้องการเก็บโปรแกรมและข้อมูลก่อนการอัพเกรด
รูปที่ 9 ระบบเพิ่มทำการอัพเกรด Windows Server
รูปที่ 10 ระบบจะเตือนว่าท่านจะไม่สามารถใช้เครื่องขณะทำการอัพเกรดได้ ให้ท่านยืนยันการติดตั้ง
รูปที่ 11 ระบบเริ่มทำการอัพเกรด
หลังจากนั้นระบบจะทำการ reboot อีก 2-3 ครั้ง การติดตั้งถือว่าเรียบร้อย
แล้วพบกับ บทความใหม่ๆ จาก AVESTA ได้ในอนาคต
AVESTA CO., LTD. ให้บริการเขียนซอฟต์แวร์ ติดตั้ง รับเป็นที่ปรึกษา รวมถึงระบบสำรองข้อมูล ด้วยประสบการณ์ยาวนานนับสิบปี