การคิดราคาค่า license แบบใหม่ ซึ่งมีผลตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ของ VMware

Published on June 13, 2024
การคิดราคาค่า license แบบใหม่ ซึ่งมีผลตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ของ VMware

หลังจากการเข้าซื้อกิจการของ Broadcom มีการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญ สิ่งเหล่านี้รวมถึงการยุติการขาย license แบบ ซื้อขาดหรือที่เรียกว่า Perpetual ทั้งหมด เพื่อ เปลี่ยนเป็นรูปแบบ subscription หรือที่เรียกว่าการซื้อรายปีนั่นเอง นอกจากนั้นก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงในรวมชุดขายของผลิตภัณฑ์ vSphere, vSAM เป็น VCF และ VVF และ ขายใบอนุญาตแบบใหม่นี้ จะทำให้ท่านต้องจ่ายเพิ่มขึ้น 5-40 เท่าจากราคาเดิมที่ท่านเคยจ่าย

 

Core คืออะไร?

คอร์คือหน่วยประมวลผลแต่ละตัวภายในหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) มันทําหน้าที่เป็น “สมอง” ของ CPU รับคําแนะนําและดําเนินการคํานวณหรือดําเนินการเพื่อปฏิบัติตามคําแนะนําเหล่านั้น CPU อาจมีหลายคอร์ โดยแต่ละคอร์สามารถทํางานได้อย่างอิสระจากคอร์อื่นๆ

VMware กําหนดนิยามคำว่า Core อย่างไร

“core” หมายถึงหน่วยวัดที่กําหนดไว้ตามสภาพแวดล้อมที่ซอฟต์แวร์ทํางาน:

(1) ในสภาพแวดล้อมเชิงกายภาย คำว่าคอร์ ก็หมายถึง หน่วยประมวลผลที่จับต้องได้

(2) ในสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบเวอร์ชวลไลซ์หรือไฮเปอร์ไวเซอร์ (VM ที่เรากำหนดใน Virtual Machine) Core เป็นหน่วยประมวลผลทางกายภาพ ซึ่งมันอาจจะสะท้อนถึงการทำงานใน core แบบกายภาพมากกว่า 1

(3) ในสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบ public cloud คำว่า Core ถูกกําหนดให้เป็นหน่วยประมวลผลทางกายภาพหน่วยเดียวของโปรเซสเซอร์ ซึ่งอาจจะสะท้อนถึง vCPU จำนวนหนึ่งหน่วยหรือมากกว่า แต่ผู้จําหน่าย public cloud อาจตั้งชื่อแตกต่างกัน (เช่น Amazon Web Services ใช้คําว่า “vCPU”, Microsoft Azure ใช้คําว่า “Core” หรือ “vCPU”, Google Cloud Platform ใช้คําว่า “Virtual CPU”, และ Heroku ใช้คําว่า “Compute”)

(4) ในกรณีที่ไม่ได้เปิดใช้งาน Hyperthreading 1 vCPU จะถูกนับว่าเป็น 1 core แต่ถ้าเราเปิดใช้งาน Hyperthreading เราจะนับว่า 2 vCPU มีค่าเท่ากับ 1 Core

 

งั้นเราไปดูเลยว่ามันทำงานอย่างไร สำหรับการนับ license แบบใหม่

Subscription-based: ซึ่งหมายถึงการซื้อขาดไม่มีแล้ว มันก็เหมือนเป็นการเช่าใช้ซอฟต์แวร์ ซึ่งจะต้องต่ออายุ เมื่อช่วงเวลาการเช่าหมดลง ซึ่งโดยปกติ ก็ปีละครั้ง

Mininum License Capacity: ซึ่งหมายถึง การซื้อจะต้องมีขั้นต่ำ สำหรับ VMware vSphere Foundation (VVF) และ VMware Cloud Foundation (VCF) ท่านจะต้องซื้อขั้นต่ำ 16 cores ต่อ CPU นั่นหมายถึงว่า ไม่ว่าท่านจะมีจำนวน core น้อยแค่ไหนท่านจะต้องซื้อขั้นต่ำที่ 16 core นั่นเอง เช่น Xeon ของท่าน มี 8 Cores ท่านจะต้องซื้อ 16 licenses เพราะมันคือขั้นต่ำ

การคำนวนจำนวน license ที่ต้องซื้อ: การคำนวนก็จะมาท่าน ท่านจะต้องนับจำนวน physical core ของแต่ละ CPU socket ที่ท่านใช้และท่านใช้ทั้งหมดกี่ CPU และ กี่ host ก็คูณกันเข้าไปเลย

ตัวอย่าง: กรณีท่านมี 1 ESXI host และ ภายใน server ดังกล่าวท่านมี 1 CPU ซึ่งใช้ 8 Cores ท่านต้องซื้อ 16 core license และ กรณีต่อไป ท่านมี 2 x ESXi host และ แต่ละ host นั้นมี 2 CPUs แต่ละ CPU มี 8 cores ท่านก็จะต้องซื้อ
16 * 2 * 2 = 64 core license



ESXi Host CPUs ต่อ Host Cores ต่อ CPU จำนวน license ที่ต้องซื้อขั้นต่ำ จำนวน VCF/VFF core ที่ต้องซื้อ
1 1 8 16 16
2 2 8 16 64
8 2 20 16 320



 

VSAN มาพร้อมกับ VMware Cloud Foundation (VCF) และ VMware vSphere Foundation (VVF)

vSAN รวมอยู่ใน Bundle ของ VMware Cloud Foundation (VCF) และ VMware vSphere Foundation (VVF) แล้ว vSAN ซึ่งเป็นโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลถูกรวมเข้ากับ vSphere และจัดการผ่านแพลตฟอร์มเดียว

สําหรับ VMware Cloud Foundation (VCF) รูปแบบการให้สิทธิ์การใช้งานกําหนดว่าแต่ละใบอนุญาตหลักที่ซื้อจะมีความจุ vSAN 1 เทบิไบต์ (TiB) ย้ำนะว่า เป็น Tebibyte ไม่ใช่ Terabyte

สำหรับ VMware vSphere Foundation (VVF) รูปแบบการให้สิทธิ์การใช้งานจะให้ความจุ vSAN 100 กิบิไบต์ (GiB) สําหรับแต่ละสิทธิ์การใช้งานหลักที่ซื้อ

หากท่านต้องการซื้อความจุเพิ่ม จะต้องซื้อ เป็น Add-on

vSAN Tib Licensing Metric

vSAN ของ VMware ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับสร้าง Software Defined Storage (SDS) นั้นจะใช้ license แบบ tebibyte (TiB) ซึ่งมันจะใช้จำนวนเนื้อที่ที่ใช้งานใน datastore นั่นเอง

 

TiB คืออะไร?

เทบิไบต์ (TiB) เป็นหน่วยของที่เก็บข้อมูลดิจิทัลเท่ากับ 2^40 ไบต์ ซึ่งมีขนาดประมาณ 1.1 เท่าของเทราไบต์แบบดั้งเดิม (TB) ตามกําลัง 10 TiB (Tebibyte) เป็นหน่วยที่แตกต่างจาก TB (เทราไบต์) ที่ใช้กันทั่วไปสําหรับการจัดเก็บ แม้ว่าจะฟังดูคล้ายกัน แต่จริงๆ แล้ว TiB นั้นใหญ่กว่า TB ประมาณ 10% ความแตกต่างเล็กน้อยที่อาจจะมองว่าสำคัญเหมือนกับสำหรับการออก license

 

ยกตัวอย่างเช่น ท่านซื้อ 64 core license สำหรับ ESXi ท่านก็จะได้ vSAN license มาสำหรับ 4 ESXi hosts ท่านจะได้ license การใช้งาน vSAN มาเท่ากับ 100 Gigibytes (GiB) x 64 = 6,400 / 1024 = 6.25 TiB license แต่ ถ้าท่านต้องการใช้งาน vSAN จำนวนขนาด 19.36 TiB ท่านก็จะต้องซื้อ license เพิ่ม อีก 14 Tib

 

ในกรณีที่ท่านซื้อ products ในหมวด VMware Cloud Foundation (VCF) 4 Hosts คำนวน จำนวน core แล้วได้ 128 core license ท่านจะได้ใช้ เนื้อที่ vSAN ครอบคลุม 128 TiB

 

บทสรุป

หากคุณ หรือ องค์กรของท่าน ขาดความเชี่ยวชาญภายในองค์กรที่จําเป็นหรือต้องการความช่วยเหลือในการอธิบายการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต่อฝ่ายบริหารของคุณอย่าลังเลที่จะติดต่อ เซลล์ของ AVESTA  ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ VMware และการใช้งานสามารถทําได้ผ่านการวิเคราะห์ตําแหน่งใบอนุญาตที่มีประสิทธิภาพ สิ่งสําคัญคือต้องเข้าใจผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ รวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้น การจัดการที่ซับซ้อนมากขึ้น และ กรณีที่ท่านต้องการ คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ เรายินดีให้คำแนะนำโดยเฉพาะการช่วยแนะนำ ถึงวิธีการลดต้นทุนการดำเนินการ

Creating Proxmox VE Cluster

สำหรับ Proxmox VE นั้นแน่นอนว่าสนับสนุนการทำ Clustering ในตัวอยู่แล้วเพื่อทำให้ระบบมี การจัดการทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความสามารถในการสำรองข้อมูล, การย้ายเครื่องเสมือน (VM)...

Read more »

Updating ML30 Gen10 Firmware with ILOREST

แน่นอนว่าการอัพเดท firmware ของทั้ง BIOS และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดใน Server นั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า เพื่อความปลอดภัย และ...

Read more »

Switches เดสก์ท็อปสวิตช์ 10/100Mbps 10 ช่อง

แนะนำอุปกรณ์ใหม่ มาแรง ใช้งานง่าย! Switches อุปกรณ์ต่อพ่วง Network Computer เดสก์ท็อปสวิตช์ 10/100Mbps 10...

Read more »

how to apply license key on a Proxmox VE host

สำหรับวันนี้ เราจะมาสอนเรื่องการ Activate License Key สำหรับ Proxmox VE กัน ซึ่งแน่นอนว่า...

Read more »

configuring multiple VLANs in Proxmox VE

การกำหนด VLAN หลายตัว (Multiple VLAN) ใน Proxmox VE สำหรับการกำหนด VLAN...

Read more »

Verifying Files with MD5 Checksum

สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของไฟล์เนี่ย ได้ทวีความสำคัญขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะภัยทางอินเตอร์เน็ตนั้นเยอะขึ้นมาก เพราะฉะนั้นหากคุณดาวน์โหลดไฟล์แล้วไม่ตรวจสอบค่า checksum เพื่อยืนยันความถูกต้องของผู้ผลิตไฟล์อีกที มันก็จะเป็นการเสี่ยงที่ท่านจะได้ไฟล์ซึ่งอาจจะมีโปรแกรมหรือสิ่งไม่พึงประสงค์ไปด้วย และ เทคโนโลยีในการตรวจสอบไฟล์นั้น ก็คือ...

Read more »