WordPress คืออะไร
WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System: CMS) แบบโอเพนซอร์ส ที่มีการใช้งานมานานกว่า 20 ปี และ ถือว่าเป็น CMS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เขียนด้วยภาษา PHP ใช้ฐานข้อมูล MySQL/MariaDB สามารถติดตั้งบนเว็บโฮสต์ใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Linux, macOS หรือ Windows จุดเด่นคือ
ใช้งานง่าย: มีอินเตอร์เฟซหลังบ้านที่ไม่ซับซ้อน
ปรับแต่งได้สูง: ธีมพลักอิน (Themes & Plugins) ให้เลือกใช้นับหมื่น
ชุมชนใหญ่: มีคู่มือ บทความ และปลั๊กอิน/ธีมฟรี–เสียเงินน้อยมาก หรือไม่เสียเลย
WooCommerce คืออะไร
WooCommerce เป็นปลั๊กอินฟรีของ WordPress ที่เปลี่ยนเว็บไซต์ให้กลายเป็นร้านค้าออนไลน์ครบวงจร และมีการใช้งานมากที่สุดในไทย เนื่องจาก
ติดตั้งง่าย เพียงคลิกเดียวจากหน้า Dashboard
รองรับสินค้าได้ทุกประเภท (สินค้าจริง, ดิจิทัล, สมัครสมาชิกรายเดือน ฯลฯ)
มีระบบตะกร้า สั่งซื้อ ชำระเงิน คูปอง ส่วนลด และรายงานยอดขายในตัว
ขยายฟีเจอร์เพิ่มเติมได้ด้วยปลั๊กอินเสริม (เช่น PaymentGateway, ระบบขนส่ง ฯลฯ)
การเปรียบเทียบ | WordPress + WooCommerce | แพลตฟอร์มสำเร็จรูป |
---|---|---|
ความเป็นเจ้าของข้อมูล | คุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ ข้อมูลลูกค้า สต็อก ฯลฯ | แพลตฟอร์มเป็นเจ้าของ และอาจปิดร้านได้ตามนโยบาย |
การปรับแต่งและออกแบบ | ยืดหยุ่นสูง ปรับดีไซน์ ฟังก์ชันได้ตามต้องการ | จำกัดเทมเพลตและฟีเจอร์ที่แพลตฟอร์มกำหนด |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่านายหน้า (จ่ายค่าธีม/โฮสต์ครั้งเดียว/หรือรายปี) | เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น ค่าบริการรายเดือน หรือค่า promotion ร่วม |
การทำแบรนด์ (Branding) | ใส่โลโก้ สีสไตล์ โทนเสียงแบรนด์ได้เต็มที่ และมีอิสระ นอกจากนั้น ยังทำได้เอง | ดีไซน์หน้าโชว์และนโยบายรีวิวถูกควบคุมโดยแพลตฟอร์ม |
SEO และการตลาดออนไลน์ | จัดการ SEO ได้เต็มที่ (URL, Meta, Speed) | SEO บนแพลตฟอร์มถูกกำหนด |
ขยายระบบในอนาคต | ต่อยอดด้วยปลั๊กอิน ระบบสมาชิก ระบบบล็อก ฯลฯ | ขยายฟีเจอร์ต้องรอแพลตฟอร์ม ปรับแต่งไม่ได้มาก |
ความเป็นอิสระ | ไม่ต้องกังวลแพลตฟอร์มออกกติกาใหม่หรือแบนร้าน | แพลตฟอร์มอาจเปลี่ยนนโยบาย ส่งผลกระทบต่อร้านคุณ |
การชำระเงิน | เลือกรูปแบบได้หลากหลาย | แพลตฟอร์มกำหนด |
Painpoint ของการใช้ ecommerce platform
1. มีค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นสูงมาก นอกจากนั้นยังจะต้องจ่ายค่าโปรโมร่วม และ ค่าบริการอื่นๆ
2. ระบบหลังบ้านมีข้อจำกัด
3. การสื่อสารกับลูกค้าถูกควบคุม
4. ทุกอย่างแพลตฟอร์มเป็นคนกำหนด
5. ขาดอิสระเรื่องข้อมูล และ การเข้าถึงข้อมูล
การใช้ WordPress + Woocommerce จึงเข้ามาช่วยเติมเต็ม หรือ เป็นส่วนเสริม ได้ เพราะจะทำให้ท่านมีค่าใช้จ่ายน้อยลง และ ให้ส่วนลดกับลูกค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าท่านจะเลือกให้ ecommerce ของท่าน เป็นส่วนเสริม หรือ ส่วนหลักก็แล้วแต่ ท่านควรจะมีอย่างยิ่ง
ติดต่อเราวันนี้ เพื่อให้ท่าน มีอิสระ และ คชจ. ที่น้อยลงในการดำเนินการทางธุรกิจ https://getwordpress.avesta.co.th