ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า การใช้งาน Object Storage นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก และ ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ในงานหลายๆ ด้าน ซึ่งมันทำมาเพื่อแก้ปัญหาหลายๆ อย่างที่ระบบเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิมนั้นทำไม่ได้ งั้นเราไปดูกันเลยว่า ประโยชน์อะไรบ้างที่เราจะได้รับ และ เมื่อนำมาใช้กับงานด้านการสำรองข้อมูลด้วยแล้ว ก็ยิ่งได้ประโยชน์มากๆ
- ในแง่ของการขยาย : เราสามารถเนื้อที่เก็บข้อมูลเป็น petabytes ได้เลยโดยเรียกได้ว่าไม่ต้องมานั่งปรับโครงสร้างของข้อมูลใหม่ และ การเพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลนั้นแทนที่จะขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของ file system มันก็แค่เพิ่ม โหนดในระบบและเพิ่มดิสก์เท่านั้นเอง ก็หมดปัญหาและความกังวลในเรื่องการมานั่งแบ่ง LUN และการพิจารณา File System อีกต่อไป และ หากเรามาดูเรื่องการสำรองข้อมูล ที่หลากๆ องค์กรมักจะมีปัญหาเรื่องเนื้อที่เก็บที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ ไม่พอเก็บ และ ต้องมานั่งจัดสรรข้อมูลใหม่ เรื่องพวกนั้นจะหมดไป
- ในแง่ของการลงทุน : Object Storage นั้นใช้ฮาร์ดแวร์แบบธรรมดาที่สุด แทนที่จะเป็น RAID เราก็ไม่ต้องลงทุนเรื่อง RAID อีกต่อไป ไม่ว่าจะเก็บแบบ GFS หรือ Archive ก็ทำให้ต้นทุนต่อการเก็บข้อมูลนั้นน้อยลง เพราะเราใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาถูกลงนั่นเอง
- ความทนทาน และ ยืดหยุ่น : Object Storage เช่น MinIO, Ceph หรือ HPE Scality ใช้สิ่งที่เรียกว่า erasure coding และ replication ซึ่งหมายถึงการปกป้องข้อมูล ไม่ว่าฮาร์ดแวร์จะเสียหายมากในหลายๆ กรณี ก็ยังสามารถทำงานได้ เพราะการมี replication ที่ดี
- การจัดการง่ายขึ้น : แทนที่จะเป็นการเก็บแบบโครงสร้างรากต้นไม้ เราก็จะใช้ Object ID แทน ซึ่งมันสามารถเก็บ metadata ได้ด้วย การทำ index ก็จะจ่ายตามไป และ lifecycle ก็จะสามารถจัดการได้ด้วยอีกต่างหาก
- มีระบบ versioning และ immutability ในตัว : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากในโลกของการสำรองข้อมูล เพราะการใช้ระบบ versioning และ WORM (Write Once Read Many) หรือที่อาจจะเรียกว่า object locking นั้นมีส่วนช่วยป้องกัน ransomware ได้เป็นอย่างดี
- มี API : Storage ของเราจะมีคุณสมบัติเหมือน Cloud Storage เพราะมันถูกควบคุมและจัดการได้ในระดับ programming นอกจากนั้น มันสามารถเข้ากันได้ดีมากกับ Veeam , Commvault หรือว่า การสำรองที่ทำขึ้นเองก็ยังได้ การจัดการ workflow จะง่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- มีระบบ Multi-tenancy และ Access Control : ด้วยระบบควบคุมการเข้าถึงทั้งระดับที่เรียกว่า bucket policy และ per-object ACL และ multi-tenant isolation ทำให้เราสามารถกำหนดได้หลายระบบ เช่นการใช้งานแต่ละแผนก หรือ บางผู้เช่า ก็ทำได้หมด การแยกระดับผู้ใช้ทำได้หลายระบบ
- ระบบซ่อมแซมตัวเอง : การซ่อมแซมตัวเองหรือ self-healing กับข้อมูลที่เสียหาย ทำได้ ด้วยระบบ scrubbing และ checksum เพื่อให้ข้อมูลนั้นมีความถูกต้องที่สุด
ด้วยข้อดีทั้งหมด ทำให้มันเป็น Storage System สำหรับวันนี้และอนาคตอย่างแท้จริงๆ และ AVESTA ปัจจุบันให้คำปรึกษา และ วางระบบ พร้อมบริการหลังการขายครบวงจร ทั้งระบบสำรองข้อมูลแบบ physical, virtual, cloud ผ่านซอฟต์แวร์ชั้นนำ และ hypervisor ชั้นนำทั้ง Veeam, Nakivo, Storware, BDRSuite, DatApp บน VMware, Hyper-V, AHV, Proxmox VE, oVirt ปรึกษาเราวันนี้