Backup Air-Gap นั้นหมายถึง กลยุทธ์ด้านความปลอดภัยในระบบสำรองข้อมูล เพื่อที่จะแยก สิ่งที่เราทำการแบ็คอัพไปนั้น ให้ตัดขาดออกจากระบบหลัก หรือ โปรดักชันเน็ตเวิร์ก ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้อง ข้อมูลเหล่านั้นจากการจู่โจมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจาก ransomware และ ภัยอื่นๆ เช่นการลบโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
ทั้งนี้คำว่า air-gap หรืออาจจะแปลเป็นไทยว่า ช่องว่างอากาศนั้น ก็หมายถึง ไร้การเชื่อมต่อโดยตรง ทั้งนี้ คำว่าการเชื่อมต่อนั้น ก็อาจจะหมายถึงทั้งทางกายภาพ และ ทางลอจิก ก็ได้เช่นกัน
Air-Gap 2 รูปแบบ
- Physical Air-Gap (ช่องว่างอากาศทางกายภาพ) : สำหรับ Air-Gap แบบนี้ คือการตัดระบบสำรองข้อมูล ออกจากระบบหลัก ทางกายภาพ เช่น หมายถึงเทป หรือ ฮาร์ดดิสก์ ที่ถูกนำออกเน็ตเวิร์ก เมื่อการสำรองข้อมูลนั้นเสร็จสิ้น เช่นนำ เทปแบ็คอัพไปเก็บไว้ที่อื่นๆ
- Logical Air-Gap (ช่องว่างอากาศทางลอจิก) : วิธีการนี้ หมายถึง แบ็คอัพของเรานั้นยังจะออนไลน์อยู่ แต่ จะไม่สามารถเข้าถึง หรือ ถูกเปลี่ยนแปลงได้ โดยระบบ หรือ ผู้ใช้งานทั่วๆ ไป สำหรับเทคนิคนี้ จะอยู่ในการสำรองแบบ Write Once Read Many (WORM), Immutable Backup, Access Control ด้วยการแยกสิทธิ์, Cloud Storage วิธีการแบบที่ 2 นี้ กำลังได้รับความนิมอย่างมาก เพราะสะดวกในการจัดการ และ ปลอดภัย โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วย เช่น Object Storage (S3)

ประโยชน์ที่ได้จากการทำ Air-Gap Backup
- ปกป้องภัยจาก ransomware เมื่อท่านโดนจู่โจมด้วย ransomware ข้อมูลสำรองของท่านจะปลอดภัย เพราะไม่สามารถเข้าถึงด้วย process หรือ โปรแกรม ransomware
- มีข้อมูลซึ่งไม่ถูกเปลี่ยนแปลง คุณมีข้อมูลที่ ไม่ได้ถูกแก้ไขไว้ เพื่อดึงข้อมูลกลับ เพราะมันเป็นข้อมูลที่อ่านได้อย่างเดียว
- เป็นไปตามกฏของรัฐหรือผู้ตรวจสอบ (auditor) แน่นอนในหลายๆ องค์กรโดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ จำเป็นที่จะต้อง มีการตรวจสอบ และ มีรูปแบบการปกป้องข้อมูลที่ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะสถาบันการเงิน และ สถานพยาบาล
หากท่านต้องการ ใช้งาน Backup Air-Gap หรือ รูปแบบใด ก็แล้วแต่ สามารถปรึกษาเราได้ทันที ผ่าน Line OA : @avesta.co.th หรืออีเมล์ [email protected] เพราะเราคือผู้ให้บริการมืออาชีพ ที่ติดตั้งระบบสำรองข้อมูลและให้คำปรึกษามาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี อย่าให้ข้อมูลของท่านอยู่ในมือสมัครเล่น เพราะ Data ในทุกวันนี้ สำคัญมากกว่าทุกสิ่งภายในองค์ไปแล้ว