เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาการเกษตรในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต การจัดการทรัพยากร และการลดต้นทุน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องด้วยประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีในการประกอบกิจกรรมด้านการเกษตร หากนำเทคโนโลยีมาช่วย จัดการ จะช่วยให้เกษตรกร เพิ่มผลผลิต และ ควบคุมผลผลิตได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างบริการหรือแอปพลิเคชันที่ การเกษตรได้ มีดังนี้:
1. การจัดการฟาร์ม (Farm Management Systems) : แอปพลิเคชันช่วยเก็บข้อมูลการเพาะปลูก
ระบบติดตามผลผลิตและการจัดการพื้นที่แบบดิจิทัล
ประโยชน์ที่จะได้รับ : เกษตรกรสามารถวางแผนเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระยะเวลาปลูก เก็บเกี่ยว หรือการใช้น้ำ
2. การใช้ IoT ในการเกษตร (Smart Farming) : อุปกรณ์ IoT เช่น เซ็นเซอร์ตรวจวัดความชื้นในดิน อุณหภูมิ และปริมาณน้ำฝน โดยการนำเทคโนโลยีมาผนวกกับการให้บริการของเรา เช่น Embedded System / IoT และ หรือ นำอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วเช่น Tuya Devices นำข้อมูลมาประมวลผลเพื่อดำเนินการ เช่นการเปิดปิดน้ำ และ ปุ๋ย ระบบควบคุมการให้น้ำอัตโนมัติ
ประโยชน์ที่จะได้รับ : ลดการใช้น้ำและปุ๋ยโดยใช้เฉพาะพื้นที่ที่จำเป็น ช่วยลดต้นทุนและรักษาสิ่งแวดล้อม
3. การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) : การใช้ Big Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศหรือโรคพืช
แอปพลิเคชัน AI
ประโยชน์ที่จะได้รับ : เกษตรกรสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น เช่น เลือกพืชที่เหมาะสมกับสภาพดิน หรือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูก
4. ระบบการตลาดออนไลน์ (E-Agriculture Marketplace) : แพลตฟอร์มขายสินค้าเกษตร เช่น Freshket, Alibaba, เกษตรกรออนไลน์
ประโยชน์ที่จะได้รับ : เกษตรกรสามารถขายผลผลิตโดยตรงให้ผู้บริโภคหรือตลาดที่กว้างขึ้น ลดการพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง
5. การบินโดรนเพื่อการเกษตร (Drone Technology) : โดรนสำรวจพื้นที่เพาะปลูก เช่น การตรวจหาโรคพืช
โดรนฉีดพ่นปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง
ประโยชน์ที่จะได้รับ : เพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการจัดการพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่
6. ระบบการเรียนรู้ออนไลน์ (E-Learning for Farmers) : คอร์สออนไลน์ เช่น Coursera สำหรับเกษตรกร
แพลตฟอร์มให้คำแนะนำ เช่น YouTube Channels การเกษตร
ประโยชน์ที่จะได้รับ : ช่วยให้เกษตรกรสามารถเรียนรู้เทคนิคการปลูกหรือการจัดการฟาร์มใหม่ ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา
7. การตรวจสอบผ่านดาวเทียมและ GIS (Satellite and GIS Technology) : ระบบตรวจสอบสภาพดินและน้ำจากภาพถ่ายดาวเทียม
การใช้ GIS เพื่อวางแผนการจัดการพื้นที่
ประโยชน์ที่จะได้รับ : ช่วยวางแผนการใช้ที่ดินให้เหมาะสม และลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
8. การพยากรณ์อากาศและภัยธรรมชาติ (Weather Forecasting and Disaster Alerts) :
แอปพลิเคชันแจ้งเตือนสภาพอากาศ เช่น AccuWeather, Weather Underground
ระบบเตือนภัยน้ำท่วมผ่าน SMS หรือแอปฯ
ประโยชน์ที่จะได้รับ : เกษตรกรสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติได้ทันเวลา
9. ระบบบล็อกเชนในเกษตร (Blockchain for Agriculture) : การใช้ Blockchain เพื่อติดตามแหล่งที่มาของสินค้าเกษตร
ระบบยืนยันคุณภาพผลผลิตแบบดิจิทัล
ประโยชน์ที่จะได้รับ : เพิ่มความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
ติดต่อเซลล์เราวันนี้เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับ นวัตกรรมด้านการเกษตรที่น่าสนใจ [email protected] / line OA : @avesta.co.th