ในปัจจุบันสถานประกอบการประเภทหอพัก ห้องพัก ได้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะผู้คนมีการเดินทางมากขึ้น การเก็บค่าบริการ สำหรับห้องพัก แต่ละประเภทจะมีดังนี้
1. สำหรับหอพัก รายเดือน เช่น Apartment / Dormitory : จะเก็บค่าเช่า เป็นรายเดือน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งจะมีการสรุปทุกเดือน และ เก็บหลังจากช่วงเวลา cut-off
ที่กำหนด เช่นทุกๆ สิ้นเดือน
2. ห้องพักรายวัน หรือ รายสัปดาห์หรือ ชั่วคราว : ค่าจะใช้จ่ายจะเป็นลักษณะเหมา เช่น วันล่ะ เท่าไหร่ หรือ สัปดาห์ล่ะเท่าไหร่ เป็นต้น

แต่ด้วยวิธีการคิดเงินดังกล่าว มีปัญหาตามมาคือ
1. การค้างค่าใช้จ่าย เช่นค่าน้ำค่าไฟ
2. ระบบไม่สามารถต่อยอดด้วย

แล้วจะแก้ปัญหาเช่นไร ?
สำหรับการแก้ปัญหานั้น สามารถทำได้ด้วยการใช้ระบบ Prepaid ซึ่งปัจจุบันนั้นสามารถทำได้ ผ่านเทคโนโลยี หลายๆ ตัวที่จะมาทำงานร่วมกัน โดยการใช้ระบบแบบ Pre-paid นั้น ผู้ประกอบการจะได้ประโยชน์ดังต่อไปนี้

1 ลดปัญหาลูกค้าค้างจ่าย
ผู้พักต้อง “เติมเงินก่อนใช้งาน” ทำให้ผู้ประกอบการ ไม่ต้องเสี่ยงกับการค้างจ่าย หรือหนีออกโดยไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ผู้ใช้งานประมาณการในการใช้งานได้

2 บริหารจัดการง่ายและโปร่งใส
สามารถดูยอดการใช้และยอดเงินคงเหลือของแต่ละห้องผ่านระบบได้ทันที ระบบคำนวณอัตโนมัติ ไม่มีความผิดพลาดจากการจดมิเตอร์มือหรือคำนวณผิด

3 ลดต้นทุนด้านแรงงานและเวลา
ไม่ต้องส่งพนักงานไปจดมิเตอร์ทุกเดือน ไม่ต้องทำบิลหรือเก็บเงินสดเอง ระบบตัดไฟ/น้ำอัตโนมัติเมื่อยอดเงินหมด

4 เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
ได้รับเงินล่วงหน้าก่อนการใช้งาน ทำให้ผู้ประกอบการมีเงินหมุนทันที และ สามารถวางแผนรายได้และค่าใช้จ่ายของหอพักได้แม่นยำกว่าเดิม

5 เสริมภาพลักษณ์ความทันสมัย
ระบบอัตโนมัติช่วยยกระดับหอพักให้ดู “สมาร์ท” เหมาะกับกลุ่มผู้เช่ารุ่นใหม่ เช่น นักศึกษา หรือพนักงานออฟฟิศ หรือจริงๆ อาจจะเรียกได้ว่าาดึงดูดผู้คนทุกกลุ่มก็ว่าได้

อุปกรณ์และระบบที่ต้องใช้

เพื่อให้ระบบเติมเงินค่าน้ำ-ค่าไฟทำงานได้ครบวงจร ต้องมีองค์ประกอบหลักดังนี้:

1 มิเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Meter)
มิเตอร์ไฟฟ้าแบบ Prepaid (Smart Electricity Meter) เช่น Acrel มันจะทำงานโดยรายงานการใช้ไฟฟ้าทันทีแบบ real-time และ จะทำการหักเงินที่ลูกค้าเติมไว้ก่อนหน้า ตามสูตรที่คิดไว้เช่น 1kWh = 5 บาทเป็นต้น

มิเตอร์น้ำแบบ Prepaid (Smart Water Meter) ซึ่งมีหน้าที่ ตรวจจับปริมาณน้ำที่ใช้และหักเครดิตอัตโนมัติ

2 ระบบควบคุมกลาง (Controller / Gateway)

เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อข้อมูลจากมิเตอร์หลาย ๆ ตัวไปยังเซิร์ฟเวอร์ ทำหน้าที่ควบคุมการตัด/ต่อไฟฟ้าหรือวาล์วน้ำตามยอดเงินคงเหลือ โดยการสื่อสารอาจจะเป็น สื่อสารผ่าน Wi-Fi, Ethernet, Zigbee ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ข้อ (1) ที่ท่านเลือก

3 ระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการ (Management Platform) หรือระบบหลังบ้าน (Back Office)
– จัดการบัญชีผู้เช่าแต่ละห้อง เช่นสร้างห้องผู้เช่าในระบบ
– ตรวจสอบยอดคงเหลือ การเติมเงิน และประวัติการใช้ ของแต่ละห้อง
– กำหนดค่าหน่วยในระบบ
– สั่งตัด-ต่อไฟ/น้ำจากหน้าจอได้

4. Application ส่วนผู้ใช้งาน
ทำหน้าที่กำหนดห้อง และ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และ ทำให้ผู้เช่า สามารถที่จะดูประวัติการใช้งานระบบได้ โดยจะมีฟังก์ชันย่อยเช่นการเติมเงิน

5 โครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ
– ระบบเครือข่ายภายใน (LAN/Wi-Fi) ภายในอาคาร
– แหล่งจ่ายไฟสำรอง (UPS) สำหรับอุปกรณ์ควบคุม
– เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์สำหรับจัดเก็บข้อมูล

• Facebook
• Twitter
• Line