LoRaWAN: เครือข่ายไร้สายพลังงานต่ำระยะไกลสำหรับการเกษตร
LoRaWAN คืออะไร?
LoRaWAN (Long Range Wide Area Network) เป็นโปรโตคอลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารระยะไกลในระบบ Internet of Things (IoT) โดยใช้เทคโนโลยี LoRa ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลในระยะทางไกลและใช้พลังงานต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ต้องการทำงานเป็นเวลานานโดยใช้แบตเตอรี่
คุณสมบัติเด่นของ LoRaWAN:
- การสื่อสารระยะไกล: สามารถส่งข้อมูลได้ไกลถึง 10-15 กิโลเมตรในพื้นที่โล่ง และ 2-5 กิโลเมตรในเขตเมือง ซึ่งแน่นอนว่าเพียงพอสำหรับไร่ขนาดใหญ่
- ใช้พลังงานต่ำ: อุปกรณ์สามารถทำงานได้เป็นปีโดยใช้แบตเตอรี่ก้อนเล็ก
- เครือข่ายแบบไม่ต้องมีใบอนุญาต (Unlicensed Band): ใช้ย่านความถี่ที่ไม่ต้องขอใบอนุญาต เช่น 868 MHz ในยุโรป และ 915 MHz ในอเมริกา
- ความปลอดภัยสูง: มีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งระดับเครือข่ายและระดับแอปพลิเคชัน (AES-128 Encryption)
การสร้างเครือข่าย LoRaWAN ส่วนตัว (Private LoRaWAN Network)
หากต้องการสร้างเครือข่าย LoRaWAN ใช้งานเองในพื้นที่เกษตร สามารถทำได้โดยติดตั้งอุปกรณ์หลัก ๆ ได้แก่ Gateway, Network Server และ End Devices ซึ่งทั้งหมดเราสามารถจัดหาให้ท่านได้ เพื่อการสร้างเครือข่ายที่ใช้งานได้จริง ผ่านผู้ผลิตอุปกรณ์ชั้นนำจากจีน Acrel ผนวกกับทักษะของโปรแกรมเมอร์ที่พร้อมจะดูแลท่านด้วยความมั่นใจ
1. องค์ประกอบของระบบ LoRaWAN
- End Devices (Node): อุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ใช้ LoRaWAN เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ ความชื้นในดิน หรือระบบติดตามปศุสัตว์
- Gateway: ทำหน้าที่รับสัญญาณ LoRa จาก End Devices แล้วส่งไปยัง Network Server ผ่านอินเทอร์เน็ต (Ethernet, Wi-Fi หรือ 4G/5G)
- Network Server: จัดการข้อมูลที่ได้รับจาก Gateway และควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ในเครือข่าย ซึ่งทำงานได้บนระบบปฏิบัติการ Linux
- Application Server: ระบบประมวลผลและแสดงผลข้อมูล เช่น แดชบอร์ดสำหรับดูข้อมูลสภาพแวดล้อมในฟาร์ม
2. การเลือกอุปกรณ์และติดตั้งระบบ
- เลือก Gateway ที่เหมาะสม: แนะนำให้ใช้ Gateway ที่มีเสาอากาศกำลังสูง (เช่น 8dBi) และติดตั้งในจุดที่สูงเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กว้าง เช่น บนเสาไฟฟ้าหรือหลังคาโรงเรือน
- วางแผนการติดตั้งเซ็นเซอร์: ตรวจสอบตำแหน่งและจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลถูกส่งถึง Gateway ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตั้ง Network Server: สามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์ Open-source เช่น ChirpStack หรือ The Things Stack เพื่อจัดการเครือข่ายของตนเอง
3. การปรับแต่งและทดสอบระบบ
- ตรวจสอบระยะส่งสัญญาณด้วยเครื่องมือวัดค่า RSSI และ SNR
- ปรับแต่งค่า Adaptive Data Rate (ADR) เพื่อให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ทดสอบการรับส่งข้อมูลของเซ็นเซอร์ในสภาวะการใช้งานจริง
การนำ LoRaWAN ไปใช้ในภาคเกษตรกรรม
LoRaWAN เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรรมอัจฉริยะ (Smart Agriculture/Smart Farming) เนื่องจากสามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น:
1. การตรวจสอบสภาพแวดล้อมในฟาร์ม
- การวัดความชื้นในดิน: ช่วยควบคุมระบบให้น้ำให้มีประสิทธิภาพ ลดการใช้น้ำโดยไม่จำเป็น
- การวัดอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ: มีประโยชน์สำหรับการปลูกพืชในโรงเรือนหรือพื้นที่กลางแจ้ง
2. การติดตามสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์
- ติดตั้งอุปกรณ์ติดตาม GPS ที่รองรับ LoRaWAN บนตัวสัตว์เพื่อดูตำแหน่งแบบเรียลไทม์
- ตรวจจับพฤติกรรมสัตว์ เช่น การเคลื่อนไหวผิดปกติที่อาจบ่งบอกถึงอาการป่วย
3. ระบบอัตโนมัติในฟาร์ม
- ควบคุมระบบให้น้ำแบบอัตโนมัติ โดยให้เซ็นเซอร์ตรวจจับค่าความชื้นแล้วเปิด/ปิดวาล์วตามค่าที่กำหนด
- ควบคุมอุณหภูมิและการระบายอากาศในโรงเรือนเพาะปลูก
4. การวิเคราะห์ข้อมูลและการแจ้งเตือน
- สามารถนำข้อมูลจากเซ็นเซอร์มาวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์แนวโน้มของสภาพอากาศหรือการเกิดโรคพืช
- ตั้งค่าระบบแจ้งเตือนผ่าน SMS หรือแอปพลิเคชัน หากมีค่าผิดปกติ เช่น อุณหภูมิสูงเกินไปหรือมีการเคลื่อนที่ผิดปกติของปศุสัตว์
สรุป
LoRaWAN เป็นโซลูชันที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนในการใช้พลังงานและแรงงาน อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าเครือข่ายของตนเองเพื่อใช้งานในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยการติดตั้ง Gateway และเซ็นเซอร์ที่เหมาะสม พร้อมใช้งานซอฟต์แวร์บริหารเครือข่าย LoRaWAN ช่วยให้การทำเกษตรอัจฉริยะเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเครือข่ายสามารถเป็นระบบปิดได้ และ ไม่จำเป็นต้องเชื่อมกับผู้ใช้ภายนอก (หากต้องการ)
AVESTA เรามีทีมงานที่พร้อม ทำงานร่วมกับ Supplier ที่น่าเชื่อถือ เพื่อทำให้ท่านเข้าถึง LoRaWAN และใช้งานได้อย่างราบรื่น ติดต่อเราวันนี้ที่ Email : [email protected] หรือ Line OA : @avesta.co.th เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม